สำหรับชาวญี่ปุ่นแล้ว การใส่กิโมโน มีการแบ่งชนิดของกิโมโน เพื่อใส่ตามโอกาส เวลา และสถานที่ และแบ่งตามเนื้อผ้าหรือมูลค่าของเนื้อผ้าที่นำมาทำชุดกิโมโน ซึ่งแน่นอนว่าเนื้อผ้าที่มีราคาสูงก็จะเหมาะกับชุดกิโมโนที่ใช้ในโอกาสสำคัญและเป็นทางการมากขึ้น
กิโมโนญี่ปุ่นแบ่งออกเป็น 14 ชนิด
โดย 11ชนิดเป็นกิโมโนที่แบ่งตามเนื้อผ้า ลายผ้า และอีก 3 ชนิดเป็นกิโมโนที่แบ่งตามฤดูกาลที่ใส่
กิโมโนที่แบ่งตามเนื้อผ้าทั้ง 11 ชนิดจะเป็นลวดลายผ้าและเนื้อผ้าแบบต่างๆ เช่น กิโมโนที่ใช้สำหรับงานแต่งงาน เรียกว่า อุจิคาเคะ หรือที่เรารู้จักกันในกิโมโนสีขาวล้วนพร้อมหมวกทรงกลมสูงแบบญี่ปุ่น และกิโมโนสำหรับพิธีแต่งงานนอกจากสีขาวแล้วยังมีสีแดงที่มีลวดลายสดใน ประดับเครื่องประดับสวยงามสำหรับชุดเจ้าสาว ที่เรามักเห็นในพิธีแต่งงานของชาวญี่ปุ่นกันบ่อยๆนั่นเอง
ส่วนกิโมโนอื่นๆก็จะมี สำหรับพิธีงานศพ เป็นกิโมโนสีดำที่มีลายเรียบ ไม่มีลวดลายใดๆ มีเฉพาะตราประจำตระกูล และใช้โอบิสีดำที่ใช้เฉพาะสำหรับงานศพเท่านั้น ส่วนอีกหนึ่งกิโมโนที่คนไทยรู้จักกันดีเพราะเหมาะสำหรับฤดูร้อนอย่างบ้านเราคือ ชุดยูกาตะ สำหรับใส่อยู่บ้าน ใส่สบายๆไม่มีพิธีรีตอง หรือใส่ในฤดูร้อน เพราะเนื้อผ้าจะบางและชุดซับในต่างๆหรือชุดภายในจะน้อยกว่าจึงเหมาะกับวันสบายและเหมาะกับฤดูร้อนแบบไทยด้วยนะ
ยังมีกิโมโน อีกหลายรูปแบบ เช่น
สำหรับใส่พิธีเปิดภาคการศึกษา สำหรับไปงานเลี้ยงสังสรรค์แบบไม่เป็นทางการ สำหรับงานกึ่งทางการ
และเป็นทางการ และ สำหรับงานพิธีรีตองชั้นสูง เป็นต้น
ส่วนกิโมโนที่แบ่งตามฤดู
ก็จะเน้นเรื่องการตัดเย็บเช่นแบบมีผ้าซับใน สำหรับฤดูหนาว หรือกิโมโนแบบผ้าชนิดบาง เหมาะสำหรับใส่ฤดูร้อน เป็นต้น
เราอาจจะเห็นกิโมโนที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายๆกัน แต่ลองสังเกตที่สีของเนื้อผ้า ลายของเนื้อผ้า และความหนาของเนื้อผ้า จะทำให้เราสามารถแบ่งแยกได้ว่า เป็นกิโมโนสำหรับพิธีแบบไหน ได้แบบคร่าวๆ แต่ถ้าลงลึกลงไปแล้ว แนะนำว่าเราอาจจะต้องเรียนรู้ถึงโอกาสและวิธีการใส่ที่เฉพาะแต่ละชนิดของกิโมโนด้วยนะคะ
ในบทความหน้าเราจะมาแนะนำกิโมโนแบบลงลึกในรายละเอียดของแต่ละชนิดต่อไปค่ะ
สั่งสินค้าได้ที่
Line : https://lin.ee/d3cXoPz