ชุดยูกาตะเป็นชุดกิโมโนแบบหนึ่งที่มีวิธีการใส่ที่ง่ายและอุปกรณ์การใส่น้อยกว่ากิโมโนแบบอื่น ชุดยูกาตะจึงเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นและวัยอื่นๆ เพราะสามารถใส่เองได้ ซึ่งต่างกับชุดกิโมโนที่ต้องมีอุปกรณ์ที่มีรายละเอียดมากมายและวิธีการใส่ที่ซับซ้อนกว่าชุดยูกาตะ
ชาวญี่ปุ่นใส่ชุดยูกาตะตอนไหน
ดั้งเดิมชุดยุกาตะเป็นชุดที่สำหรับใส่หลังอาบน้ำหรือใส่เข้าซาวน่า แต่เมื่อได้รับความนิยมมากขึ้นและมีการใส่ออกนอกบ้านในรูปแบบการตกแต่งที่หลากหลาย ชุดยูกาตะก็เริ่มมีลวดลายและความน่ารักสวยงามมากขึ้น
ฤดูที่เป็นที่นิยมในการใส่ชุดยูกาตะคือฤดูร้อนของญี่ปุ่น คือช่วงเดือน กรกฏาคม-สิงหาคม โดยเฉพาะเดือนสิงหาคมที่ประเทศญี่ปุ่นมักจะมีเทศกาลฤดูร้อนต่างๆออกมามากมาย เช่น การดูเทศกาลดอกไม้ไฟ เป็นการจุดพลุดอกไม้ไฟที่มีเกือบทั่วประเทศญี่ปุ่น โดยจะมีคนวัยรุ่น หนุ่มสาว เด็กและครอบครัวแต่งตัวชุดยูกาตะสวยงาม ไปที่จุดที่มีเทศกาลดอกไม้ไฟ ส่วนใหญ่จะจัดริมหาด ทะเลสาบ หรือสวนสาธารณะใหญ่ จะมีร้านขายของริมทางและอาหารอร่อยมาออกร้านมากมาย อารมณ์คล้ายๆงานวัดบ้านเรา ซึ่งเป็นโมเมนต์โรแมนติกที่หนุ่มสาวจะออกเดทช่วงเวลานี้กัน
เราจะเห็นรูปวัยรุ่นญี่ปุ่นหรือคู่รักออกเดท ใส่ชุดยูกาตะ แล้วถ่ายรูปโดยมีฉากหลังเป็นดอกไม้ไฟกันบ่อย นี่แหละคือช่วงฮิตสำหรับการใส่ชุดยูกาตะสำหรับชาวญี่ปุ่นนั่นเอง
และสำหรับร้านขายชุดยูกาตะแล้ว ช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคม จะเป็นช่วงที่ร้านทำโปรโมชั่นชุดออกมา ทั้งชุดเช่า และชุดสำหรับขาย
ชุดยูกาตะสำหรับเช่านั้นมักจะเป็นชุดยูกาตะที่มีเนื้อผ้าราคาแพง เช่นผ้าไหม เป็นชุดที่ดูแลรักษายาก จึงนิยมใช้เป็นชุดเช่ามากกว่าซื้อไว้ครอบครอง ส่วนชุดยูกาตะสำหรับขาย ส่วนใหญ่จะทำมาจากผ้าคอตตอนหรือผ้าใยสังเคราะห์ ซึ่งทำให้มีราคาไม่แพง สามารถซื้อไว้แล้วตกแต่งด้วยโอบิที่หลากหลาย ทำให้ชุดยูกาตะเพียงชุดเดียวก็สามารถดูแตกต่างในทุกๆครั้งที่ใส่ ด้วยการเปลี่ยนโอบิ และเครื่องประดับชุดต่างๆ ได้
ชุดยูกาตะสำหรับคนไทยแล้ว เหมาะกับการใส่ได้ทั้งปีเลยค่ะ และสามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานที่ สถานการณ์และกิจกรรมต่างๆ ได้ เช่นเทศกาลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น งานญี่ปุ่นศึกษา หรืองานแข่งขันพูดหรือบทความภาษาญี่ปุ่น เป็นต้น